ผมเรียนอยู่ในสายการแพทย์แขนงหนึ่งตอนนี้อยู่ปี1กำลังจะขึ้นปี2 ในบ้านผมมีย่า พ่อ อา และตัวผมครับ ผมจะสนิทกับย่ามากที่สุดผมไม่สนิทกับพ่อครับตอนเด็กๆสมัยอนุบาลอยู่กับแม่ครับ ตอนที่แม่เสียตอนป.1พ่อก็อยู่ในเรือนจำพ่อออกมาตอนประมาณป.4ตอนแรกที่ท่านออกมาผมดีใจครับพอเจอหน้าพ่อก็รีบคุยนั่นนู่นนี่จำความรู้สึกตอนนั้นได้เลยแล้วพ่อก็ออกไปทำงานต่างจังหวัดครับเราก็เริ่มหางเหินกันเรื่อยๆ และอีกคนคืออาที่เป็นน้องของพ่อครับด้วยความที่เขาทำงานอยู่ในแขนงหนึ่งในสายการแพทย์เขาจะมีบุคลิกที่ดูดุและมีระเบียบมากครับตั้งแต่จำความได้ไม่เคยสนิทกันเลยครับผมค่อนข้างกลัวด้วยซ้ำ
เข้าเรื่องเลยนะครับเริ่มแรกเลยตอนม.ปลายอามักจะถามเสมอว่าอยากเรียนอะไรผมก็ถามตัวเองอยู่เรื่อยๆครับแล้วก็พบคำตอบอยู่ในใจแล้วแหละว่าอยากเรียนนิเทศ แล้วก็บอกเขาตอนม.6ครับว่าอยากเรียนนิเทศซึ่งเขาก็ไม่โอเคกับคำตอบนี้ครับเขาอยากให้เรียนสายการแพทย์ซึ่งจบมามีงานทำเลยไม่ต้องไปขวนขวายมากครับ ซึ่งผมกับอาคุยกันหลายรอบครับซึ่งอาก็พยายามพูดต่างๆนาๆแล้วจบประโยคที่ให้มาเรียนทางสายการแพทย์แล้วให้ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกแทน ผมก็เลยไปไล่ยื่นรับตรงคณะทางสายการแพทย์หลายมหาลัยครับปรากฏว่าไม่ติดครับสูงสุดได้ตัวสำรอง พอถึงรอบแอดที่เป็นความหวังสุดท้ายก็คุยกับทางบ้านอีกครับจำได้เลยว่าวันนั้นคุยกันจนดึกครับผมก็คำนวณคะแนนแอดต่างๆให้ที่บ้านดู แล้วด้วยความที่ผมสอบgat patอยู่หลายอันมีคณะวิศวะที่ติดมาด้วยครับอาเห็นว่ามีโอกาศติดวิศวะก็อยากให้เลือกอีกครับโดยเอาอันดับไว้รองจากคณะทางสายการแพทย์อาก็ใช้เหตุผลต่างๆนาๆครับจนผมก็เลือกวิศวะไปโดยไม่ได้ห้อยนิเทศไว้เลย พอถึงวันประกาศผลปรากศว่าติดวิศวะครับซึ่งตอนนั้นตกใจครับไม่รู้จะทำยังไงต่อดีต้องไปเรียนคณะนี้จริงๆหรอก็รู้สึกกังวลครับแต่พอเข้าไปเรียนก็เจอสังคมหลายๆแบบครับมีความสุขดีความทุกข์ก็มีบ้างการเรียนตอนนั้นปี1ไม่ได้เข้าเนื้อหาไรมากครับเลยไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าไหร่ พอเรียนไปสักพักก็มีเบอร์นึงโทรมาว่าผมติดคณะที่อาอยากให้เรียนครับผมเลยโทรไปบออาว่าผมติดคณะนั้นอาก็ถามว่าอยากเรียนไหมนี่ก็โอเคครับตอนนั้นยังไม่ทันคิดอะไรตอนนั้นมันรีบไปหมดเลยครับอีกสองวันต้องไปสัมภาษณ์ผมเลยนอนคิดต่างๆนาๆคืนนั้นและปรึกษาหลายๆคน สรุปได้ว่าไม่อยากเรียนครับผมไม่อยากให้ทางบ้านเสียค่าใช้จ่ายมากด้วย ผมเลยโทรไปบอกอาว่าจะไม่ไปสัมภาษณ์ครับซึ่งตอนนั้นก็โดนอาว่าต่างๆครับว่าผิดสัญญกับผู้ใหญ่แล้วพยายามพูดโน้มน้าวใจให้ไปให้ได้ครับสุดท้ายก็ไปสัมภาษณ์แล้วได้เรียนคณะที่อาต้องการแล้วครับ
ตอนเรียนอยู่ในสายการแพทย์ผมก็โอเคครับเพราะเทอมแรกเนื้อหาไม่มีอะไรมากก็ผ่านมาได้แต่พอมาเทอมสองโอ้โหอนาโตมี่และอีกมากมายโผล่เข้ามาผมลืมบอกไปครับมาชอบฟิสิกส์กับคณิตมากกว่าพวกชีวะครับตอนม.ปลายสอบชีวะคะแนนเรี่ยดินมากครับ ผมก็คิดว่าไหวอยู่ครับแต่พอเรียนไปเรื่อยๆมันไม่ใช่เลยครับทั้งแลปทั้งสอบและอาจารย์กดดันต่างๆผมแย่แน่ๆครับเลยโทรไปปรึกษาที่บ้านว่าไม่ไหวครับก็คุยกันไม่เข้าใจครับพอช่วงสงกรานต์เลยกลับมาบ้านมาคุยกันครับแล้วอาก็บอกว่าไม่อยากคุยเรื่องนี้หลายๆรอบครับคุยกันบนรถอยู่นาน ผมกลับไปเรียนไปสะสางงานต่างๆครับให้รู้ว่าพยายามละแต่มันสุดจริงๆตอนนี้ปิดเทอมเลยกลับมาบ้านครับมาคุยกันอีกครั้งว่าไม่ไหวครับทำไม่ได้เลยฝืนเรียนต่อไปคงไม่ไหวอาก็ยื่นข้อเสนอมาเลยครับถ้าอยากเรียนก็ออกจากบ้านหลังนี้ไปวินาทีนั้นก็ร้องให้ครับแหละครับแล้วยืนยันว่าจะไม่ไปอาก็สวนมาแล้วทำไมยัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หน้าด้านอยู่
แล้ววันต่อมาทุกคนก็มาคุยกันครับทั้งอาย่าพ่อและป้า(พี่ของแม่อยู่คนละบ้าน) ผมก็อธิบายเหตุผลต่างๆไปแล้วครับซึ่งทุกคนกก็ยังพูดคำเดิมว่าเลือกอนาคตให้แล้วเลือกสิ่งดีๆให้แล้ว พ่อก็แทรกเข้ามาแบบพูดเสียงดังครับแบบพูดตะคอกผมจับใจความที่พ่อพูดไม่ได้ครับเหมือนบ่นแล้วก็ออกไปข้างนอกผมก็หมดคำพูดครับอธิบายต่อไปยังไงเขาก็ว่าเถียงอยู่ดีสรุปวันนั้นที่มาคุยกันก็ไม่ได้คำตอบครับ แล้วอีกวันอาก็เรียกไปคุยว่าจะเอายังไงผมก็บอกครับว่าผมฝืนเรียนต่อไม่ไหวอาก็ตอบกลับว่างั้นก็เก็บเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปวินาทีนั้นร้องให้ครับทำไรไม่ได้
พอมาวันนี้ป้ากับย่าจ้างพี่เพื่อนบ้านไปช่วยขนของที่ที่ผมเรียนอยู่(ถ้าปล่อยไว้เขาก็จะคิดค่าหอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเดือนครับ)และได้ยืมรถลุงที่เป็นน้องของย่าเพราะคุยกับพ่อแล้วพ่อก็ตะคอกใส่แล้วบอกว่าจะทำไรก็ทำจะไม่สนใจ กำลังจะไปครับอาเห็นพอดีเลยให้พี่ที่ไปส่งขนของกลับบ้านไปแล้วเรียนพ่อตื่นจากนั้นอากับพ่อก็ไปดุย่าว่าทำอะไรไม่อายเขาหรอไปขอยืมรถเขาแล้วบอกเขาว่าไงทำไรไม่รู้จักคิดหลายอย่างครับผมจับใจความได้ประมาณนี้
แล้วก็ถึงตาผมโดนว่าบ้างครับอาก็พูดคำเดิมว่าเลือกอนาคตให้แล้วจะมาว่าบังคับอะไรต่างๆผมก็ค้างกดดันบอกไม่ถูกครับก็พยายามพูดแหละ แล้วพ่อก็เดินมาชี้หน้าด่าง้างมือจะตบอาห้ามไว้ครับแล้วบอกพ่อว่าอย่าไปแตะต้องตัวมันเรามันคนละชั้นเรามันบังคับมันไม่ดีมันถูกหมดทุกอย่าง(พูดแบบกวนประสาทมากครับ) แล้วพ่อก็เดินลงจากบ้านไปอาก็ยังว่าอยู่คับพูดเดิมๆเลือกสิ่งดีๆอะไรทำนองนี้ผมก็พูดไม่รู้จะตอบว่าไรละครับ แล้วพ่อก็ขึ้นมาอีกมาง้างมือจะตีอีกพ่อตะคอกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หยุดเถียงเดี๋ยวนี้ ชี้หน้าพูดแต่แบบนี้ครับละมาว่าผมไม่รู้สำนึกที่เลี้ยงดูมาพ่อแบบโวยวายครับแล้วก็เอามือมาแตะไหล่อีกมืออีกข้างง้างตีผมก็แน่นอนครับไม่อยากโดนตีเลยจะบัดมือตรงไหล่ทิ้งแล้วกระโดดหนีออกมาพ่อก็พูดอีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดูสิเห็นไหมสันดานมัน แล้วอาก็ไล่พ่อไปในห้องครับทุกคนแยกย้ายอาไปทำงานส่วนผมหนีมาร้องให้ในห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บอกก่อนครับตอนนี้ค่ากินอยู่ที่เรียนอาเป็นคนส่งพ่อไม่ได้ทำงานพักใหญ่ๆละครับรถพ่อก็โดนยึดไปละ ตอนแรกที่เรียนวิศวะพ่อเป็นคนจ่ายค่าต่างๆครับแต่แล้วก็โยนภาระต่างๆให้อาค่าใช้จ่ายทั้งในบ้านอีก อาเองก็มีภาระเยอะแล้วครับเพราะสร้างบ้านใหม่ได้สามปีละครับอาเป็นคนส่งทั้งหมดซึ่งก็ยังส่งไม่หมด
ผมอาจจะพิมพ์งงๆบ้างสงสัยหรือผิดพลาดตรงไหนถามได้นะครับ ตอนนี้มืดแปดด้านเลยไม่รู้จะไปปรึกษาใครละครับช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาหรือติอะไรได้นะครับขอบคุณครับ
มีปัญหาบ้านแตกเรื่องที่เรียนครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับเริ่มแรกเลยตอนม.ปลายอามักจะถามเสมอว่าอยากเรียนอะไรผมก็ถามตัวเองอยู่เรื่อยๆครับแล้วก็พบคำตอบอยู่ในใจแล้วแหละว่าอยากเรียนนิเทศ แล้วก็บอกเขาตอนม.6ครับว่าอยากเรียนนิเทศซึ่งเขาก็ไม่โอเคกับคำตอบนี้ครับเขาอยากให้เรียนสายการแพทย์ซึ่งจบมามีงานทำเลยไม่ต้องไปขวนขวายมากครับ ซึ่งผมกับอาคุยกันหลายรอบครับซึ่งอาก็พยายามพูดต่างๆนาๆแล้วจบประโยคที่ให้มาเรียนทางสายการแพทย์แล้วให้ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกแทน ผมก็เลยไปไล่ยื่นรับตรงคณะทางสายการแพทย์หลายมหาลัยครับปรากฏว่าไม่ติดครับสูงสุดได้ตัวสำรอง พอถึงรอบแอดที่เป็นความหวังสุดท้ายก็คุยกับทางบ้านอีกครับจำได้เลยว่าวันนั้นคุยกันจนดึกครับผมก็คำนวณคะแนนแอดต่างๆให้ที่บ้านดู แล้วด้วยความที่ผมสอบgat patอยู่หลายอันมีคณะวิศวะที่ติดมาด้วยครับอาเห็นว่ามีโอกาศติดวิศวะก็อยากให้เลือกอีกครับโดยเอาอันดับไว้รองจากคณะทางสายการแพทย์อาก็ใช้เหตุผลต่างๆนาๆครับจนผมก็เลือกวิศวะไปโดยไม่ได้ห้อยนิเทศไว้เลย พอถึงวันประกาศผลปรากศว่าติดวิศวะครับซึ่งตอนนั้นตกใจครับไม่รู้จะทำยังไงต่อดีต้องไปเรียนคณะนี้จริงๆหรอก็รู้สึกกังวลครับแต่พอเข้าไปเรียนก็เจอสังคมหลายๆแบบครับมีความสุขดีความทุกข์ก็มีบ้างการเรียนตอนนั้นปี1ไม่ได้เข้าเนื้อหาไรมากครับเลยไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าไหร่ พอเรียนไปสักพักก็มีเบอร์นึงโทรมาว่าผมติดคณะที่อาอยากให้เรียนครับผมเลยโทรไปบออาว่าผมติดคณะนั้นอาก็ถามว่าอยากเรียนไหมนี่ก็โอเคครับตอนนั้นยังไม่ทันคิดอะไรตอนนั้นมันรีบไปหมดเลยครับอีกสองวันต้องไปสัมภาษณ์ผมเลยนอนคิดต่างๆนาๆคืนนั้นและปรึกษาหลายๆคน สรุปได้ว่าไม่อยากเรียนครับผมไม่อยากให้ทางบ้านเสียค่าใช้จ่ายมากด้วย ผมเลยโทรไปบอกอาว่าจะไม่ไปสัมภาษณ์ครับซึ่งตอนนั้นก็โดนอาว่าต่างๆครับว่าผิดสัญญกับผู้ใหญ่แล้วพยายามพูดโน้มน้าวใจให้ไปให้ได้ครับสุดท้ายก็ไปสัมภาษณ์แล้วได้เรียนคณะที่อาต้องการแล้วครับ
ตอนเรียนอยู่ในสายการแพทย์ผมก็โอเคครับเพราะเทอมแรกเนื้อหาไม่มีอะไรมากก็ผ่านมาได้แต่พอมาเทอมสองโอ้โหอนาโตมี่และอีกมากมายโผล่เข้ามาผมลืมบอกไปครับมาชอบฟิสิกส์กับคณิตมากกว่าพวกชีวะครับตอนม.ปลายสอบชีวะคะแนนเรี่ยดินมากครับ ผมก็คิดว่าไหวอยู่ครับแต่พอเรียนไปเรื่อยๆมันไม่ใช่เลยครับทั้งแลปทั้งสอบและอาจารย์กดดันต่างๆผมแย่แน่ๆครับเลยโทรไปปรึกษาที่บ้านว่าไม่ไหวครับก็คุยกันไม่เข้าใจครับพอช่วงสงกรานต์เลยกลับมาบ้านมาคุยกันครับแล้วอาก็บอกว่าไม่อยากคุยเรื่องนี้หลายๆรอบครับคุยกันบนรถอยู่นาน ผมกลับไปเรียนไปสะสางงานต่างๆครับให้รู้ว่าพยายามละแต่มันสุดจริงๆตอนนี้ปิดเทอมเลยกลับมาบ้านครับมาคุยกันอีกครั้งว่าไม่ไหวครับทำไม่ได้เลยฝืนเรียนต่อไปคงไม่ไหวอาก็ยื่นข้อเสนอมาเลยครับถ้าอยากเรียนก็ออกจากบ้านหลังนี้ไปวินาทีนั้นก็ร้องให้ครับแหละครับแล้วยืนยันว่าจะไม่ไปอาก็สวนมาแล้วทำไมยัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้ววันต่อมาทุกคนก็มาคุยกันครับทั้งอาย่าพ่อและป้า(พี่ของแม่อยู่คนละบ้าน) ผมก็อธิบายเหตุผลต่างๆไปแล้วครับซึ่งทุกคนกก็ยังพูดคำเดิมว่าเลือกอนาคตให้แล้วเลือกสิ่งดีๆให้แล้ว พ่อก็แทรกเข้ามาแบบพูดเสียงดังครับแบบพูดตะคอกผมจับใจความที่พ่อพูดไม่ได้ครับเหมือนบ่นแล้วก็ออกไปข้างนอกผมก็หมดคำพูดครับอธิบายต่อไปยังไงเขาก็ว่าเถียงอยู่ดีสรุปวันนั้นที่มาคุยกันก็ไม่ได้คำตอบครับ แล้วอีกวันอาก็เรียกไปคุยว่าจะเอายังไงผมก็บอกครับว่าผมฝืนเรียนต่อไม่ไหวอาก็ตอบกลับว่างั้นก็เก็บเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปวินาทีนั้นร้องให้ครับทำไรไม่ได้
พอมาวันนี้ป้ากับย่าจ้างพี่เพื่อนบ้านไปช่วยขนของที่ที่ผมเรียนอยู่(ถ้าปล่อยไว้เขาก็จะคิดค่าหอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเดือนครับ)และได้ยืมรถลุงที่เป็นน้องของย่าเพราะคุยกับพ่อแล้วพ่อก็ตะคอกใส่แล้วบอกว่าจะทำไรก็ทำจะไม่สนใจ กำลังจะไปครับอาเห็นพอดีเลยให้พี่ที่ไปส่งขนของกลับบ้านไปแล้วเรียนพ่อตื่นจากนั้นอากับพ่อก็ไปดุย่าว่าทำอะไรไม่อายเขาหรอไปขอยืมรถเขาแล้วบอกเขาว่าไงทำไรไม่รู้จักคิดหลายอย่างครับผมจับใจความได้ประมาณนี้
แล้วก็ถึงตาผมโดนว่าบ้างครับอาก็พูดคำเดิมว่าเลือกอนาคตให้แล้วจะมาว่าบังคับอะไรต่างๆผมก็ค้างกดดันบอกไม่ถูกครับก็พยายามพูดแหละ แล้วพ่อก็เดินมาชี้หน้าด่าง้างมือจะตบอาห้ามไว้ครับแล้วบอกพ่อว่าอย่าไปแตะต้องตัวมันเรามันคนละชั้นเรามันบังคับมันไม่ดีมันถูกหมดทุกอย่าง(พูดแบบกวนประสาทมากครับ) แล้วพ่อก็เดินลงจากบ้านไปอาก็ยังว่าอยู่คับพูดเดิมๆเลือกสิ่งดีๆอะไรทำนองนี้ผมก็พูดไม่รู้จะตอบว่าไรละครับ แล้วพ่อก็ขึ้นมาอีกมาง้างมือจะตีอีกพ่อตะคอกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ชี้หน้าพูดแต่แบบนี้ครับละมาว่าผมไม่รู้สำนึกที่เลี้ยงดูมาพ่อแบบโวยวายครับแล้วก็เอามือมาแตะไหล่อีกมืออีกข้างง้างตีผมก็แน่นอนครับไม่อยากโดนตีเลยจะบัดมือตรงไหล่ทิ้งแล้วกระโดดหนีออกมาพ่อก็พูดอีกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วอาก็ไล่พ่อไปในห้องครับทุกคนแยกย้ายอาไปทำงานส่วนผมหนีมาร้องให้ในห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมอาจจะพิมพ์งงๆบ้างสงสัยหรือผิดพลาดตรงไหนถามได้นะครับ ตอนนี้มืดแปดด้านเลยไม่รู้จะไปปรึกษาใครละครับช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาหรือติอะไรได้นะครับขอบคุณครับ